ต้องยอมรับว่าโลกไม่เหมือนเดิม หลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์โรคติดต่อและมลพิษในอากาศ ทำให้เกิดการรักษาระยะห่างทางสังคม พฤติกรรมการดำเนินชีวิตของคนไทยส่วนหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีใหม่แบบ New Normal จากการเดินทางออกจากบ้านในทุกเช้า แล้วกลับเข้าบ้านช่วงเย็น  เปลี่ยนมาทำทุกกิจกรรมในบ้านจนเกิดเป็นแนวคิด “Everything at Home” ที่บ้านเป็นทุกอย่างสำหรับชีวิต พักผ่อนและทำงาน จึงต้องปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของบ้านให้พร้อมสำหรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและน่าอยู่สำหรับทุกคนในครอบครัว เนื้อหานี้ เอสซีจีนำเสนอ 7 แนวทาง ตกแต่งภายในบ้านที่จะทำให้บ้านกลายเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นครับ

        1. ตกแต่งภายในบ้านให้ยืดหยุ่น รองรับการใช้งานมากกว่า 1 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่เล็ก สามารถออกแบบให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันในพื้นที่เดียวกันได้ เริ่มจากการตกแต่งให้ห้องนั้น ๆ มีความปลอดโปร่งเป็นพิเศษ ด้วยการเปิดช่องแสงที่เหมาะสม มีแสงสว่างที่เพียงพอ จากนั้นเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ไม่ตายตัว สามารถปรับประยุกต์ได้ง่าย เช่น เลือกโต๊ะทานอาหารแบบเรียบ ๆ และกว้างพอประมาณ เพื่อใช้เป็นทั้งที่นั่งทานอาหาร นั่งทำงานและนั่งทำการบ้านของเด็ก ๆ หรือการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชันที่พับเก็บผนังได้ไม่ยุ่งยากหรือขยายความกว้างได้

        2. สวนในบ้าน หากต้องอยู่บ้านที่ห้อมล้อมด้วยผนังทึบ 4 ด้าน คงทำให้การอยู่อาศัยดูอุดอู้ไร้ชีวิตชีวา การตกแต่งภายในบ้าน สร้างบรรยากาศรอบบ้านหรือในบ้านด้วยพื้นที่สีเขียว อย่างการจัดสวนเล็ก ๆ ตามจุดต่าง ๆ เอาไว้เป็นจุดพักสายตา ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้านได้ดี สำหรับบ้านที่มีพื้นที่น้อย การ ตกแต่งภายในบ้านด้วยสวนแนวตั้งสามารถตอบโจทย์เรื่องความสดชื่นได้มาก หรือหากมีงบประมาณมากขึ้นหน่อย ลองเปลี่ยนผนังทึบมาเป็นประตูหน้าต่างกระจกเพื่อเปิดมุมมองจากภายในออกสู่สวน หรือแม้กระทั่งการเลือกใช้วัสดุปูพื้น วัสดุตกแต่งผนังที่มีลวดลายสีสันเป็นธรรมชาติจะทำให้คนและบ้านใกล้ชิดกับธรรมชาติขึ้นด้วย  

        3. ตกแต่งภายในบ้านให้ใช้ประโยชน์ได้ทั้งแนวราบและแนวตั้ง สำหรับบ้านที่มีพื้นที่น้อย การวางเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบนพื้นห้องจะกินพื้นที่ค่อนข้างมาก ทำให้บ้านดูแคบลง แถมยังทำความสะอาดยาก การเพิ่มพื้นที่จัดเก็บบนผนัง อย่างเช่นตู้หรือชั้นแขวน ทำให้บ้านเป็นระเบียบและดูกว้างขึ้นอีกด้วย อีกทั้งในปัจจุบันหลายบ้านยังนิยมเลี้ยงสัตว์ อย่างเช่น น้องแมว โดยสามารถเปลี่ยนผนังว่างๆ ทำเป็นพื้นที่เดินเล่นตามผนังให้กับน้องแมวได้เช่นกัน เจ้าของสบายใจที่ได้ใกล้ชิดสัตว์เลี้ยง แมวก็เพลิดเพลินกับแคทวอร์คส่วนตัว

        4. ความปลอดภัยต้องมาก่อน บ้านต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก ซึ่งเป็นวัยที่เกิดอุบัติเหตุพลัดตกหกล้มได้ง่าย เพื่อให้บ้านใช้งานได้สะดวกทุกวัยโดยไม่ต้องกังวล ควรมีการตกแต่งภายในบ้านเสริมด้วยวัสดุที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การเลือกใช้พื้นไม้ที่ลดแรงกระแทก กระเบื้องห้องน้ำที่มีค่ากันลื่นสูง ติดตั้งราวพยุง ราวกันตก หรือการเตรียมประตูภายในบ้านให้มีขนาดพอดีและมีมือจับประตูที่เหมาะสำหรับเด็ก และผู้สูงอายุ เป็นต้น

        5. เพิ่มความเงียบสงบ เตรียมพร้อมสำหรับการทำงาน การทำงานที่บ้านหรือ work from home มีหลากหลายรูปแบบ เช่น งานบริษัทที่ต้องประชุมกับลูกค้าทุกวัน ซึ่งจำเป็นต้องการความสงบเพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงาน ขายของออนไลน์ ทำรายการในช่องทางต่าง ๆ อย่าง  YouTube หากมีมลภาวะทางเสียงมารบกวนย่อมสร้างผลกระทบโดยตรงต่อการทำงาน  จึงควรแบ่งสัดส่วนพื้นที่ภายในบ้านไว้สำหรับการทำงานอย่างชัดเจน รวมถึงเพิ่มฟังก์ชันการกันเสียงและซับเสียงให้กับผนัง อย่างเช่น พวก วัสดุวัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zoundblock หรือ แผ่นซับเสียง เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera รวมถึงปิดช่องว่างระหว่างประตู- หน้าต่างด้วยเทปกันเสียง เป็นต้น 

        6. บ้านที่มีมิติและง่ายต่อการดูแล การอยู่อาศัยในที่ใดนาน ๆ อาจทำให้เกิดความรู้สึกจำเจ ชวนให้เบื่อหน่ายได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสภาวะดังกล่าวขึ้นกับใจ ควรมีการตกแต่งด้วยวัสดุตกแต่งที่หลากหลาย โดยเลือกให้สอดคล้องกับภาพรวมของบ้าน เช่น การกรุผนังด้วยไม้ อิฐ หิน หรือวัสดุทดแทนธรรมชาติ อย่าง ซีเมนต์บอร์ดเอสซีจี   ผนังตกแต่งเอสซีจี รุ่น โมดิน่า หรือ ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี รุ่น รัสติค ที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่หลากหลายและเข้าได้กับทุกสไตล์บ้าน แถมมีข้อดีในเรื่องความสวยงามระยะยาว ไม่ต้องกังวลเรื่องสีซีดจางหรือมีรอยดำตามผนังห้อง ทั้งยังไม่ต้องดูแลรักษามากอีกด้วย 

        7. บ้านเย็นอยู่สบาย นอกจากการตกแต่งบ้านให้สวย ตอบโจทย์ครบทุกฟังกชันแล้ว อย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ คือการสร้างสภาวะการอยู่สบาย ไม่ร้อนอบอ้าวภายในบ้าน โดยการมีช่องเปิดที่เพียงพอ หรือการสร้าง ระบบถ่ายเทอากาศภายในบ้าน เพื่อระบายความร้อนไม่ให้อบอวลอยู่ภายในบ้าน เพิ่ม ฉนวนกันความร้อนโดยเฉพาะบริเวณใต้หลังคา ซึ่งเป็นจุดที่รับความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้มากที่สุด หากไม่สามารถติดตั้งฉนวนใต้หลังคาได้ อาจเปลี่ยนเป็นการทาสีกันร้อนทับวัสดุมุงหลังคาหรือฉีดโฟมกันความร้อนก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำได้เช่นกัน 

        เรื่องบ้านไม่มีวันจบ การตกแต่งภายในบ้านจึงไม่หยุดนิ่ง แต่หากเรามีแนวทางในการตกแต่งที่ช่วยให้บ้านอยู่สบายเป็นพื้นฐานแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการอยู่อาศัยไปมากน้อยแค่ไหน ก็ไม่ใช่เรื่องยากในการปรับประยุกต์เลยครับ