เมื่อพูดถึงการลงทุนติดโซลาร์ รูฟ (Solar Roof)  หลายๆ ท่านคงจะนึกถึงราคาที่แพงมากจนจับต้องไม่ได้  หรือแม้แต่การติดโซลาร์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม / การติดโซลาร์ฟาร์มเพื่อช่วยลดค่าไฟให้กับธุรกิจ แต่ในปัจจุบันการติดโซลาร์ รูฟในภาคครัวเรือน  เจ้าของบ้านทราบหรือไม่ว่า เทรนด์การลงทุนติด โซลาร์ รูฟท็อป  สำหรับบ้านอยู่อาศัยเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด  ด้วย  3 เหตุปัจจัยหลัก คุ้มค่าต่อการติดตั้ง ที่เมื่ออ่านแล้วจะรู้ได้ทันทีว่า  ณ  ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ควรจะลงทุนติดโซลาร์ รูฟ (Solar Roof)

3 ปัจจัยหลัก ที่ควรลงทุนติดโซลาร์ รูฟ (Solar Roof)

        1. ค่าใช้จ่ายในการลงทุนติดตั้งโซลาร์ รูฟถึงจุดที่เรียกว่า คุ้มค่าสำหรับการลงทุนในภาคครัวเรือน  ในปัจจุบัน จาก Trend Solar Rooftop ของเทคโนโลยีแผงโซลาร์มีประสิทธิภาพการผลิตไฟสูงขึ้น  ในขณะที่ราคาต่ำลง ทำให้ระบบหลังคาโซลาร์สำหรับกลุ่มงานบ้าน  มีระยะเวลาการคุ้มทุนเร็วขึ้น อยู่ที่ 7-10 ปี ในขณะที่ระยะเวลาการรับประกันอย่าง SCG Solar Roof Solutions ยาวนานถึง 25 ปี  ซึ่งหลังจากถึงจุดคุ้มทุนแล้วนั้นเจ้าของบ้านสามารถใช้ไฟฟ้าได้อย่างฟรีๆ 

        2. การสนับสนุนจากภาครัฐ ในโครงการโซลาร์ภาคประชาชน   ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2562 ช่วยอุดหนุนซื้อไฟคืนในกรณีที่เจ้าของบ้านติดตั้งระบบโซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) ซึ่งอาจจะมีการผลิตไฟในช่วงที่ไม่อยู่บ้านในตอนกลางวันและเหลือทิ้ง โดยนโยบายปี 2564 เพิ่มอัตราการรับซื้อคืนเป็น 2.20 บาท/หน่วย จากเดิม 1.68 บาท/หน่วย ช่วยให้การติดตั้งระบบ Solar คุ้มขึ้นมาอีกขั้น

        3. พฤติกรรมการใช้ไฟที่เปลี่ยนไปจากวิกฤติการ COVID-19 ทำให้เกิดการ work from home จากนโยบายของแต่ละบริษัทฯ ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าช่วงกลางวัน เพิ่มมากขึ้น 30-50% ในแต่ละครัวเรือน ทำให้เจ้าของบ้านมองหาโซลูชั่นที่จะช่วยลดค่าไฟ  ซึ่งการติดโซลาร์ รูฟ  สามารถตอบโจทย์ คุ้มค่าต่อการลงทุน และได้ผลในระยะยาว ประหยัดค่าไฟฟ้าได้จริง

        อย่างที่ทราบกันดีว่าการติดโซลาร์ รูฟ  สามารถช่วยลดค่าไฟได้  ซึ่ง SCG Solar Roof Solutions สามารถช่วยลดค่าไฟได้สูงถึง  60%* (*ขึ้นอยู่กับขนาดระบบ  สถานที่ติดตั้ง  สภาพอากาศ  และปริมาณการใช้ไฟ) แต่เรื่องระบบการติดตั้ง    คุณภาพแผงโซลาร์และอุปกรณ์อื่นๆ ต้องเลือกยังไง  ยังเป็นเรื่องที่เจ้าของบ้านเข้าใจอยู่น้อยมาก  เช่น  แผงโซลาร์มีหลายเกรด  ซึ่งแต่ละเกรดผลิตไฟได้ต่างกัน , อินเวอร์เตอร์  หรือระบบแปลงไฟ ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากการไฟฟ้าแล้วเท่านั้น  หรือแม้แต่เรื่องการขออนุญาตการติดตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  ยังเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคยังเข้าใจอยู่ไม่มากนัก  ซึ่งถ้าหากจะติดโซลาร์ รูฟที่บ้านแล้วนั้น  เจ้าของบ้านต้องศึกษาให้ดี  เพราะหลังคาโซลาร์ รูฟ ที่เจ้าของบ้านเลือกติดมานั้น จะอยู่ยาวคู่บ้านคุณไปอีกหลายสิบปี  หากติดไม่ดีปัญหาจะตามมาไม่รู้จบ

ติด  SCG Solar Roof Solutions ให้บริการครบวงจร พร้อมกับประกัน 25 ปี 

        1. แผงโซลาร์ทาง SCG เลือกใช้แผง Sun Power** เทคโนโลยีสหรัฐอเมริกา (Tier 1) 
        2. รับประกันตัวแผงโซลาร์ และประสิทธิภาพการผลิตไฟนาน 25 ปี 

        3. อินเวอร์เตอร์ (ระบบแปลงไฟ) เลือกใช้ของ ABB**  เทคโนโลยีสวิสเซอร์แลนด์  รับประกัน 10 ปี

        4. ออกแบบการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop)  แบบ Case by case ให้ผลิตไฟได้สูงสุด
        5. ติดตั้งโซลาร์ รูฟ (Solar Roof) โดยไม่ต้องเจาะหลังคา  ไม่เสี่ยงรั่ว ด้วยระบบ Solar FIX**  สิทธิบัตรเฉพาะ SCG 

        6. ดำเนินการขออนุญาตติดตั้งโซลาร์จากภาครัฐให้ทั้งกระบวนการ
        7. ติดตามการผลิตไฟได้ Real Time ผ่าน SCG Solar Application 

        8. มี After Sales Service ตรวจสอบระบบและล้างแผง 3 ปี**  ปีละ 1 ครั้ง
(**  อุปกรณ์ที่ใช้ และระยะเวลาการรับประกันขึ้นอยู่กับ Package ที่เลือกใช้)

        สำหรับเจ้าของบ้านท่านไหนที่ใช้ไฟกลางวัน  และลังเลที่จะติดโซลาร์ รูฟท็อป อยู่ บอกเลยว่าติดเถอะ เพราะตอนนี้เทคโนโลยีมีการพัฒนาขึ้นมาก คุ้มค่าต่อการลงทุน ที่จะติด Solar Roof ที่บ้าน  และที่สำคัญราคาจับต้องได้  นับเป็นการบริหารเงินให้คุ้มค่าได้อีกรูปแบบหนึ่ง  และหากสนใจติดตั้งระบบหลังคาโซลาร์ เอสซีจี (SCG Solar Roof Solutions) สามารถติดต่อได้ที่ SCG Experience , SCG Home Solution , SCG Roofing Center และ SCG Home บุญถาวร  ทั่วประเทศ หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCG HOME Contact Center 02-586-2222

        สามารถค้นหาไอเดียแต่งบ้านเพิ่มเติม ได้ที่ Instagram : SCG.Brand