หิ้งพระหันทางไหนดี?

 

"เรื่องของการตั้งโต๊ะหมู่บูชาหรือติดตั้งหิ้งพระในบ้านเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเรื่องหนึ่งเพราะใจนึงทุกคนก็อยากตั้งให้ถูกต้องตามความเชื่อเพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวและครอบครัว แต่บางครั้งก็ไม่สามารถทำได้ตามความเชื่อที่ได้รับมา พอดีพอร้ายคิดไม่ตกเลือกไม่ได้ทำให้ไม่สบายใจหนักเข้าไปอีก"

เรื่องของการหันทิศพระพุทธรูปบูชาว่าควรหันไปทิศไหนนั้นคิดว่าต้องมีเหตุผลที่ท่านแนะนำให้เป็นอย่างนั้น แต่บางครั้งการจะนั่งอธิบายว่าเป็นเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ คนฟังอาจโต้เถียงกันได้ ทางที่ง่ายที่สุดคืออ้างเป็นเรื่องของสิริมงคลจะได้ไม่ต้องมาเถียงกัน เพราะความเชื่อถ้าเชื่อแล้วย่อมสบายใจเมื่อทำตามก็เข้าแก๊ปในสิ่งที่อยากให้ปฏิบัติ (ผลรับที่ดี) ก็เลยสบายไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าเรามาศึกษากันลึกลงไป (ตามหลัก ลมฟ้าอากาศ แสงแดด / การวางทิศทางตัวบ้าน ฯลฯ) จะพบความแยบยลในการสร้างความเชื่อเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานที่สร้างบ้านใหม่ ปลูกเรือนอยู่ได้อย่างมีความสุข

ปลูกเรือนอย่าปลูกขวางตะวัน อันนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ตามพื้นฐานว่า ในสมัยก่อนเมื่อสร้างบ้านใหม่ จะแนะนำให้ปลูกบ้านหันตัวบ้านแนวยาวไปทางทิศตะวันออก-ตะวันตก เพื่อให้ด้านกว้างของบ้านแผ่ขยายออกรับลมที่มาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ อีกทั้งลดพื้นที่ถูกแดดในช่วงบ่ายเย็นให้มีขนาดพื้นที่น้อยสุด ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่รู้กันดีว่า พระอาทิตย์จะขึ้นจากทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกโดยปีหนึ่งๆ นั้นแนวโคจรขึ้นลงจะเยื้องมาทางทิศใต้ปีละเก้าเดือน ด้านใต้จึงเป็นอีกด้านหนึ่งที่มีโอกาสรับแดดด้วย

และถ้าวิเคราะห์กันให้ดีแล้ว ความร้อนน่าจะเป็นสาเหตุใหญ่ที่สัมพันธ์กับเรื่องหิ้งพระที่เรากำลังพูดถึง เพราะกิจกรรมหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับหิ้งพระโต๊ะหมู่บูชาก็คือ การเข้าไปกราบไหว้และสวดมนต์เพื่อให้เกิดความสงบทางใจเป็นการเพิ่มสิริมงคลให้กับตนเอง ซึ่งแน่นอนในขณะที่ไหว้พระสวดมนต์ก็คงต้องการให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สบายในขณะทำกิจกรรม และแน่นอนผนังภายในบ้านที่ควรหลีกเลี่ยงก็หนีไม่พ้นผนังด้านที่หันไปทางทิศตะวันตกและด้านที่หันไปทางทิศใต้นั่นเอง ซึ่งก็ตรงกับกุสโลบายของผู้เฒ่าผู้แก่ที่แนะนำให้จัดทิศหิ้งพระ ดังจะขอยกตัวอย่างทิศที่ดีรวม 3 ทิศพร้อมยกเหตุผลวิเคราะห์ประกอบโดยเริ่มจาก

หิ้งพระโต๊ะหมู่บูชาโดยให้พระพุทธรูปหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ทิศเศรษฐี

 

ตั้งหิ้งพระ โต๊ะหมู่บูชา โดยให้พระพุทธรูปหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ทิศเศรษฐี

ซึ่งเราจะพบว่า ถ้าตั้งตามทิศนี้เราจะพบว่า หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชามักจะถูกตั้งหันหลังให้กับทิศตะวันตกและทิศใต้ ขณะที่ผู้ที่กำลังจะไหว้พระซึ่งนั่งหันหน้าเข้าหาหิ้งพระโต๊ะหมู่บูชาซึ่งตำแหน่งที่นั่งจะถูกบังคับให้นั่งอยู่ห่างผนังทั้งด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ที่ผนังอาจยังอมความร้อนและคายออกมา ก่อความไม่สบายเนื้อสบายตัวให้กับผู้ที่นั่งกราบไหว้พระอยู่ทำให้ไม่มีสมาธิ เห็นไหมว่า ผู้เฒ่าผู้แก่มีเหตุผลที่ที่ต้องการให้ตั้งในตำแหน่งที่ดีที่สุด โดยมาผูกเป็นความเชื่อที่ว่า ถ้าหันทิศอีสานจะทำให้ประกอบอาชีพ แล้วจะร่ำรวย อยู่อย่างสุขสบาย ฯลฯ ซึ่งทุกคนก็คงอยากจะร่ำรวยและคงจะเชื่อฟังมากกว่าที่จะฟังเหตุผลความเป็นจริง

 

ตั้งหิ้งพระโต๊ะหมู่บูชาโดยให้พระพุทธรูปหันหน้าไปทางทิศตะวันออก-ทิศราชา

 

ตั้งหิ้งพระ โต๊ะหมู่บูชา โดยให้พระพุทธรูปหันหน้าไปทางทิศตะวันออก-ทิศราชา

ซึ่งแบบนี้หิ้งพระโต๊ะหมู่บูชาจะหันหลังชนผนังทิศตะวันตก แต่ก็มีโอกาสที่ตั้งประชิดด้านใต้ ซึ่งผู้ที่นั่งไหว้พระก็จะมีโอกาสที่จะได้รับความร้อนที่ถูกคายออกมาจากผนังด้านใต้มากหรือน้อยบ้างแต่ก็ไม่ร้อนเท่ากับทิศตะวันตก โดยผูกกับความเชื่อที่ว่าจะได้มีอำนาจ ประกอบกิจการใดก็สำเร็จได้ดังหมาย

 

 

ตั้งหิ้งพระโต๊ะหมู่บูชาโดยให้พระพุทธรูปหันหน้าไปทางทิศเหนือ

  

ตั้งหิ้งพระ โต๊ะหมู่บูชา โดยให้พระพุทธรูปหันหน้าไปทางทิศเหนือ ขอเรียกว่า So So ละกัน

ซึ่งถ้าตั้งแบบนี้ มีโอกาสบ้างที่จะได้รับความร้อนจากผนังด้านทิศตะวันตกมากน้อยตามระยะทางที่ห่างจากผนัง ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่จึงผูกความเชื่อว่า ตั้งทิศนี้ ไม่รวยไม่จน ไม่แย่แต่ก็ไม่รุ่ง มีพอกินพอใช้

เมื่อพิจารณาตามเหตุและผลที่ยกมาประกอบแล้วก็น่าจะทำให้เราสบายใจขึ้นได้บ้างถึงที่มาที่ไปของความเชื่อเมื่อแปลเป็นหลักเหตุและผล แต่ด้วยผนังบ้านปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นฝาไม้แล้ว ประกอบกับลักษณะห้องต่างๆ ที่วางติดกันก็ไม่เหมือนกับเรือนบ้านทรงไทยแล้ว การเลือกวางทิศทางก็น่าจะมีทางเลือกมากขึ้น โดยยึดเอาจุดหลักที่ว่า เวลาเข้าไปใช้งาน ตำแหน่งของผู้ที่เข้าไปนั่งใช้งานไม่ควรได้รับความร้อนจากผนังมาก่อความไม่สบายเนื้อสบายตัวหากเป็นห้องที่ไม่ติดแอร์ ควรมีอากาศให้ถ่ายเทได้สะดวก แต่ถ้าผนังเป็นฉนวนกันความร้อนและติดเครื่องปรับอากาศประเด็นนี้ก็จะตกไป ส่วนที่เพิ่มเติมมาภายหลังไม่ว่าจะเป็นไม่ตั้งหิ้งพระโต๊ะหมู่หันหลังชนผนังห้องน้ำ ไม่ควรอยู่ตำแหน่งใต้บันไดหรือมีห้องอื่นอยู่เหนือซ้อนห้องพระ ฯลฯ จะสังเกตุได้ว่าล้วนเป็นเรื่องของการที่จะได้รับการรบกวนจากเสียง หรือเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งถ้าเราหันตามทิศแล้วไม่ได้ทิศที่ดีจริงๆ ก็อาจจะพอจะคลายความกังวลใจได้บ้าง ไม่เช่นนั้นก็แนะนำว่าให้ปรึกษาซินแสผู้รู้ตั้งแต่ต้นในช่วงออกแบบสร้างบ้านใหม่เลยถึงตำแหน่งห้องพระและทิศหันหน้าจะได้ถูกต้องตามหลักความเชื่อครับ