ก่อผนังอิฐมวลเบาด้วยอิฐ Q-CON หนา 10 ซม. หรือ 7.5 ซม. ดี?

"หากต้องการก่อผนังอิฐมวลเบาในบ้าน จะเลือกใช้ อิฐ Q-CON หนา 10 ซม. หรือ 7.5 ซม. ดีกว่ากัน ความหนาที่แตกต่างมีผลต่อการใช้งานอย่างไร"

อิฐมวลเบา เป็นอีกวัสดุที่เจ้าของบ้านให้ความสนใจและมีข้อสงสัยกันไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องความแข็งแรงกับการดูดซึมน้ำ แม้บางท่านจะทราบดีว่าผนังอิฐมวลเบาที่ได้มาตรฐานเรื่องวัสดุและการติดตั้งนั้น สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกเช่นเดียวกับผนังอิฐมอญก็ตาม แต่เนื่องจากอิฐมวลเบาที่วางขายในปัจจุบัน ถึงแม้จะมีขนาดกว้างและยาวเท่ากัน แต่มีหลายความหนาให้เลือกใช้ อย่างอิฐ Q-CON จะมีทั้งความหนา 7.5 ซม. และ 10 ซม. จึงเป็นที่มาของคำถามว่า หากต้องการทำผนังอิฐมวลเบาควรใช้เลือกใช้อิฐ Q-CON ที่ความหนาเท่าไหร่ดี ?

ผนังอิฐมวลเบา Q-CON ต่างความหนา ต่างคุณสมบัติ

       ไม่ว่าจะเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาหรือผนังก่ออิฐใดๆ ก็ตาม หากมีความหนามากกว่าย่อมกันความร้อนและกันเสียงได้ดีกว่า เช่นเดียวกันกับผนังก่ออิฐ Q-CON หนา 10 ซม. ซึ่งต้านทานความร้อนได้ดีกว่าผนังก่ออิฐ Q-CON หนา 7.5 ซม. ถึง 2 เท่า และกันเสียงได้ถึง 43 เดซิเบล (ผนังก่ออิฐ Q-CON หนา 7.5 ซม.กันเสียงได้ 37 เดซิเบล) นอกจากนี้ ผนังก่ออิฐ Q-CON หนา 10 ซม. จะมีระยะเสาเอ็น คานเอ็น ที่ห่างกว่า จึงใช้จำนวนเสาเอ็น คานเอ็นน้อยกว่า อีกทั้งผนังก่ออิฐ Q-CON หนา 10 ซม. แข็งแรงพอที่จะรับแรงกระแทกในการเปิดปิดประตูหน้าต่างได้ สามารถยึดวงกบประตูหน้าต่างเข้ากับอิฐมวลเบารอบช่องเปิดได้เลย โดยไม่ต้องหล่อเสาเอ็นและคานเอ็น ซึ่งนับว่าช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาการก่อสร้างได้มาก

ภาพ : การหล่อเสาเอ็นและคานเอ็นรอบช่องเปิดผนังก่ออิฐ Q-CON หนา 7.5 ซม.

ก่อผนังอิฐมวลเบา Q-CON ต่างความหนา ต่างกระบวนการ

       โดยทั่วไป การติดตั้งเสาเอ็น และคานเอ็นจะต้องใช้เวลาในการหล่อและรอให้ปูนแห้ง (ไม่ต่ำกว่า 3-5 วัน) แต่การก่อผนังอิฐมวลเบา Q-CON จะมีอีกทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้ นั่นคือ “การใช้คานทับหลังสำเร็จรูป (Lintel) แทนการหล่อเสาเอ็นและคานเอ็น” ทั้งนี้ ตามที่ได้เล่าไว้หัวข้อที่แล้วว่า ผนังก่ออิฐ Q-CON หนา 10 ซม. มีระยะเสาเอ็นและคานเอ็นที่ห่าง ทั้งยังไม่ต้องหล่อเสาเอ็นคานเอ็นรอบช่องเปิดด้วย ในส่วนนี้นับว่าช่วยอำนวยความสะดวกและลดเวลาในกระบวนการก่อสร้างเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะใช้คานทับหลังสำเร็จรูปแทนก็ตาม เนื่องจากในทางปฏิบัติแล้ว ผนังก่ออิฐ Q-CON หนา 7.5 ซม. จะต้องติดตั้งคานทับหลังสำเร็จรูปรอบช่องเปิด โดยส่วนที่ขนาบด้านข้างจะต้องสูงยาวต่อเนื่องจากพื้นถึงท้องคาน ในขณะที่ผนังก่ออิฐ Q-CON หนา 10 ซม. จะใช้เพียงคานทับหลังวางเหนือช่องเปิดเพื่อรองรับอิฐแถวบนเท่านั้น

ภาพ: คานทับหลังสำเร็จรูป (Lintel) ใช้ในงานก่อผนังอิฐมวลเบา Q-CON แทนการใช้เสาเอ็นและคานเอ็น ซึ่งมีหลายความยาวให้เลือกใช้

ภาพ: เปรียบเทียบการใช้คานทับหลังสำเร็จรูปในผนังที่ก่อด้วยอิฐมวลเบา Q-CON หนา 7.5 ซม. และ 10 ซม. ประกอบด้วย 1) คานทับหลังเหนือและใต้ช่องเปิด 2) คานทับหลังข้างช่องเปิดทอดยาวจากพื้นถึงใต้ท้องคานชั้นบน

อิฐมวลเบา Q-CON ต่างความหนา ต่างเวลา ต่างค่าก่อสร้าง

       ยกตัวอย่างผนังอิฐมวลเบาที่ก่อด้วยอิฐ Q-CON หนา 7.5 ซม. ควบคู่กับคานทับหลังสำเร็จรูป อาศัยเวลาก่อ 15 วัน หากเปลี่ยนมาใช้อิฐ Q-CON หนา 10 ซม. แทนอาจใช้เวลาเพียง 7 วันเท่านั้น นับว่าใช้เวลาน้อยลงไม่ต่ำกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะบ้านที่มีช่องเปิดเยอะจะยิ่งเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน ถึงแม้ว่าอิฐ Q-CON หนา 10 ซม. จะมีราคาวัสดุต่อตารางเมตรสูงกว่า อิฐ Q-CON หนา 7.5 ซม. ประมาณ 20 % ก็ตาม แต่เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายในการก่อทั้งหมดแล้ว อิฐ Q-CON หนา 10 ซม. ใช้คานทับหลังน้อยและใช้ระยะเวลาการก่อสั้น ทำให้ประหยัดค่าวัสดุคานทับหลังและค่าแรงได้มาก ส่งผลให้ในท้ายที่สุด ค่าใช้จ่ายในการก่อผนังทั้งระบบอาจถูกกว่าได้

       เมื่อดูภาพรวมแล้ว อิฐมวลเบา Q-CON หนา 10 ซม. ดูจะมีข้อดีอันโดดเด่นเมื่อเทียบกับอิฐมวลเบา Q-CON หนา 7.5 ซม. ด้วยระยะเวลาก่อสร้างที่เร็วกว่า รวมถึงการใช้จำนวนคานสำเร็จรูปที่น้อยกว่า จึงอาจทำให้ประหยัดค่าก่อสร้างได้มากกว่าด้วย แต่ทั้งนี้ในการเลือกใช้งานก็อาจต้องคำนึงถึงบางปัจจัยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะความสะดวกในการสั่งซื้อวัสดุ เพราะในบางพื้นที่จัดจำหน่าย อาจสั่งซื้ออิฐ Q-CON หนา 7.5 ซม. ได้ง่ายกว่าอิฐ Q-CON หนา 10 ซม. นอกจากนี้ การก่อผนังอิฐมวลเบาด้วย อิฐ Q-CON หนา 10 ซม. เมื่อฉาบปูนทั้งสองด้านแล้วจะมีความหนาผนังรวมมากกว่าความหนาวงกบทั่วไป จึงควรคำนึงถึงรายละเอียดในการออกแบบในส่วนนี้ด้วย