สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี แข็งแกร่งด้วยนวัตกรรมที่พัฒนาจากความเข้าใจผู้บริโภค

        ในยุคที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งจากพฤติกรรมผู้บริโภค เทคโนโลยี รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมและโรคระบาดอย่างโควิด-19 การจะก้าวเข้าไปเป็นแบรนด์ที่สามารถนั่งอยู่ในใจผู้บริโภคได้เป็นเรื่องที่ท้าทาย ซึ่งสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เป็นหนึ่งแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์ Customer Centric และพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่จนทำให้ ผู้บริโภคให้คะแนนเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับของ 2022 Thailand’s Most Admired Brand ในหมวดวัสดุก่อสร้าง กลุ่มแผ่นฝ้า ผนัง และพื้น (ไฟเบอร์ซีเมนต์)

        ในฐานะผู้นำตลาดแผ่นฝ้า ผนัง และพื้น สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ถือเป็นแบรนด์ที่อยู่ในกลุ่มวัสดุก่อสร้างมาอย่างยาวนาน คุณอัญชลี ชวนะลิขิกร Managing Director - Ceiling & Wall Business มองว่าปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ คือการเข้าใจถึงปัญหาที่ผู้บริโภคกำลังเผชิญทั้งภัยพิบัติ ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการเกิดโรคระบาดอย่างโควิด-19 แล้วปรับตัวอย่างรวดเร็วในการพัฒนาสินค้าและบริการขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ได้ทันท่วงที

“ความสำเร็จของเราเกิดจากการที่เราเห็น Pain Point ของลูกค้า เราพยายามค้นหาและใช้นวัตกรรมต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อให้สามารถตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ตัวอย่าง เช่น สินค้าที่เคยทำและประสบความสำเร็จมาต่อเนื่อง คือสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ซึ่งเป็นวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ต้องตอบโจทย์ใช้งานทั้งช่างและเจ้าของบ้าน เนื่องจากสินค้าเราส่วนมากเจ้าของบ้านไม่ได้เป็นผู้ติดตั้งโดยตรง ฉะนั้นเราจึงต้องพัฒนาสินค้า โดยการปรับสูตรใหม่ที่เราเรียกว่าสูตรซูเปอร์โมเลกุล (Super Molecule) ให้ช่างใช้งานง่าย ทำงานคล่อง ยิงขอบแผ่นไม่แตก และในส่วนของเนื้อสมาร์ทบอร์ดจะมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถอยู่กับเจ้าของบ้านได้อย่างยาวนาน ทั้งหมดนี้ต้องใช้การพัฒนาและวิจัยค่อนข้างมาก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ใช้งานจริง”

“นอกจากนี้โจทย์ในโลกสมัยใหม่ที่ทุกคนมีความต้องการต่างกัน เราจึงทำ Personalized Marketing เพื่อให้เข้าถึงแต่ละบุคคล รวมถึงเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าแต่ละคนให้ได้ทันท่วงที เราต้องพัฒนาและปรับปรุงสินค้าอย่างสม่ำเสมอเพราะเราพยายาม Beyond ความเป็นฟังก์ชั่นของวัสดุก่อสร้าง แต่เราจะเพิ่มการตระหนักถึง Better Living หรือ Well-being ของผู้ใช้เป็นสำคัญ”

        ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาการที่ต้องเผชิญกับโรคระบาดอย่างโควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตของคนเปลี่ยนไป คนส่วนมากต้องทำงานในรูปแบบ Work from Home ทำให้ต้องใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้นและเกิดความต้องการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านให้สวยงามมากขึ้นในสไตล์ต่างๆ ที่ตัวเองชื่นชอบ เช่น Nordic Style, Minimal Style, Modern style เป็นต้น ซึ่ง สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี มองเห็นโอกาสและพัฒนาสินค้าที่มีความสวยงามที่หลากหลายไม่ใช่เป็นแค่ไฟเบอร์ซีเมนต์แผ่นเรียบเหมือนที่ผ่านมา

“เรามีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการดีไซน์ความสวยงามในแบบเฉพาะ เช่น เรามีสมาร์ทบอร์ดที่เป็นแบบฉลุลายที่เรียกว่า SCG Fretwork หรือแบบเป็นแผ่นเซาะร่อง ลายเสี้ยนที่เรียกว่า SCG Rustic เราพยายามสร้างความแตกต่างด้วยการนำความต้องการของลูกค้ามาแปรเป็นรูปแบบที่สวยงามและติดตั้งง่าย โดยใช้นวัตกรรมต่างๆ มาพัฒนาสินค้าของเราให้มากกว่าแค่การมีเนื้อวัสดุที่ดี แต่ยังรวมถึงการออกแบบให้มีรูระบายอากาศเพื่อระบายความร้อนจากโถงหลังคา ทำให้มี Better Living หรือ Well-being และเมื่อมองจากทางด้านนอกก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของบ้านดูสวยขึ้นจากบ้านเดิม เรากำลังพยายามทำสิ่งที่เรียกว่า Personalized Fashion หรือ Personalized Need ให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ โดยเราได้พัฒนาสินค้าและโซลูชั่นออกมาใน Series ที่เรียกว่า เอสซีจี”

        จากสถานการณ์ที่ทุกคนเผชิญในปัจจุบันทำให้เรื่องของ Health & Hygiene เป็นประเด็นที่ทุกคนให้ความสำคัญ สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี พัฒนานวัตกรรม ULTRA CLEAN COATING พร้อมระบบการติดตั้งแบบ Modular ขึ้นมาเพื่อทำ ARI Clinic และตู้ตรวจปลอดเชื้อให้กับทางโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดย 2 ปีที่ผ่านมามีการส่งมอบไปแล้วกว่า 700 ตู้ ซึ่งนวัตกรรม ULTRA CLEAN COATING นี้พื้นผิวของสมาร์ทบอร์ดที่ถูกเคลือบจะทำให้ไวรัสหรือแบคทีเรียไม่สามารถเกาะติด หรือถ้าเกาะติดก็สามารถทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย 

“ตอนนี้ความยากและความท้าทายในการทำงานของเราก็คือการตามให้ทันความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการทั้งความทนทาน สวย และปลอดภัย เราจึงต้องพยายามหานวัตกรรมมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อให้สินค้ามีประสิทธิภาพดีขึ้น เช่น ทำวัสดุที่มีเนื้อแข็งแรงมากกว่าเดิมแต่มีความบางลง และสุดท้ายเราต้องปรับตัวเป็น Digitalize เพราะตอนนี้เราเข้าถึงลูกค้าโดยตรงไม่ได้ ดังนั้นการเข้าถึงลูกค้าจึงแตกต่างจากเดิมซึ่งเราก็ยังคงยืนยันว่าสามารถเข้าถึงทุกคนได้อย่างใกล้ชิดแม้จะผ่านทางระบบ Digital”

        ปีที่ผ่านมา การพัฒนาสินค้ารวมถึงการทำการตลาดของ สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ยังคงยึดแกนหลักในเรื่องของคุณภาพสินค้าที่ต้องได้มาตรฐาน ทั้งยังเพิ่มเรื่องของฟังก์ชั่นเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้

        สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี มีตัวฝ้าระบายอากาศติดตาข่ายสำเร็จรูปที่อำนวยความสะดวกและลดเวลาการทำงานในบ้านลูกค้าของช่างได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ Highlight Building ต่างๆ อย่าง โรงแรม โรงพยาบาล Commercial Building หรือ Co-Working Space เช่น Privazy Wall ระบบผนังสมาร์ทบอร์ด ที่พัฒนามาเพื่อเป็นผนังกั้นเสียง ลดการส่งผ่านเสียงระหว่างห้องได้ ทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น
​​​​​​​
        คุณอัญชลี เสริมว่า ในปีนี้สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เตรียมตัวสำหรับ Next Normal ไม่ว่าโรคระบาดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นหรือจะกลับมาระบาดอีก รวมถึงการส่งมอบสินค้าที่รักษ์โลกผ่านแคมเปญใหญ่ของ SCG คือ Green Choice และพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพ สวยงาม และทนทาน

“ตอนนี้นอกจากเรื่องของความสะอาดและสุขภาพแล้ว สิ่งที่ทุกคนตระหนักคือเรื่องของสิ่งแวดล้อม ดังนั้นทางเราจะให้ความสำคัญกับสินค้า Green Choice สร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคสามารถเลือกเพื่อโลกได้ โดยเราจะมีสินค้ากลุ่มหนึ่งที่ให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการลดมลภาวะต่างๆ ซึ่งสินค้า สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ทุกตัวเป็น Green Choice ทั้งหมด ดังนั้นที่เราบอกว่า Next Normal จึงจะเป็นไปในลักษณะที่เราจะพัฒนาสินค้าที่ทั้งสวย ดี และรักษ์โลก ผ่านระบบจัดจำหน่ายหรือการเข้าถึงลูกค้าทั้งแบบ Offline และ Online”

        เห็นได้ชัดว่าเคล็ดลับในการสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จของสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ประกอบไปด้วยการให้ความสำคัญกับ Customer Centric เพื่อนำความต้องการนั้นมาพัฒนาด้วยนวัตกรรม เป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันสินค้าและกระบวนการผลิตนั้นก็ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน

“เราต้องการยืนในจุดที่ทำธุรกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืนอย่างจริงจัง เป็นไปได้ยากมากที่จะสำเร็จด้วยตัวคนเดียว เราต้องให้ทุกคนโตไปด้วยกันและไม่ทำให้ใครหรือโลกเราสูญเสีย เราจึงพยายามที่จะใช้นวัตกรรมทุกรูปแบบเพื่อผลิตสินค้าและบริการที่ดีตอบโจทย์ในเรื่องของการอยู่อาศัยที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการรักษ์โลกอย่างจริงจัง ลดมลภาวะให้เหลือน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย”



3671   Favorite   Print   Share  
            Change Password Change Password link-social signin-popupnew downloadplan-popupnew